iPhone หายอย่าตกใจ! ทริคค้นหาไอโฟนหายที่สาวก Apple ไม่ควรพลาด

การค้นหาไอโฟนหายถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้ไอโฟนควรใส่ใจ เพราะไม่ว่าจะเกิดจากความประมาทหรือเหตุสุดวิสัย การรู้วิธีตามหาโทรศัพท์หาย iPhone อย่างถูกต้องและรวดเร็วจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้เครื่องคืนอย่างปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งหลายคนเมื่อเจอเหตุการณ์ไอโฟนหายก็มักตั้งคำถามว่า ไอโฟนหายตามยังไง? และจะมีวิธีใดบ้างที่สามารถติดตามหาไอโฟนหายปิดเครื่องหรือแม้กระทั่งตอนเครื่องถูกปิดชั่วคราว
สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญปัญหา iPhone หาย วันนี้ RHINOSHIELD แบรนด์เคสกันกระแทกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ขอแชร์วิธีค้นหาไอโฟนหายที่ทั้งง่าย ใช้ได้จริง และเหมาะกับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือเคยใช้ iPhone มานาน พร้อมแนะนำไอเทมเสริมที่ช่วยปกป้อง iPhone ของคุณจากการหล่นหายหรือสูญหายโดยไม่ตั้งใจ ไม่ว่าจะสายคล้องโทรศัพท์หรือ เคส AirTag ที่ช่วยให้คุณติดตามโทรศัพท์ได้ง่ายขึ้น
ไอโฟนหายตามยังไง? วิธีใช้ Find My iPhone ติดตามแม้เครื่องถูกปิด
ถ้าพบว่าไอโฟนหายไป ไม่ว่าจะวางลืมไว้ที่ไหน หรือหาไม่เจอแม้จะพยายามแล้วก็ตาม อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะ Apple มีระบบช่วยติดตามที่มีประสิทธิภาพอย่าง Find My iPhone ซึ่งสามารถระบุตำแหน่งของเครื่องได้อย่างแม่นยำ แม้ในกรณีที่เครื่องถูกปิดหรือแบตเตอรี่หมด
บทความนี้จาก RHINOSHIELD จะมาแนะนำวิธีตามหาโทรศัพท์หาย iPhone อย่างละเอียด พร้อมเคล็ดลับที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการระบุตำแหน่งและตามหาเครื่องคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไอโฟนหาย ? อย่าพึ่งรีบค้นหา! เช็กก่อนว่าเครื่องยังเปิดอยู่ไหม
ก่อนเริ่มขั้นตอนค้นหาไอโฟนหายให้ลองตั้งสติก่อน แล้วเช็กว่าตัวเครื่องยังเปิดอยู่หรือไม่ เพราะถ้าไอโฟนยังเปิดและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ คุณจะสามารถติดตามตำแหน่งได้แบบเรียลไทม์ทันที ช่วยให้ตามหาได้รวดเร็วขึ้น
ขั้นตอนใช้ Find My iPhone ค้นหาไอโฟนหาย
หากคุณเปิดใช้งาน Find My iPhone ไว้ล่วงหน้าแล้ว การติดตามไอโฟนหายจะเป็นเรื่องง่ายมาก โดยทำตามขั้นตอนนี้
เปิดแอป Find My บนอุปกรณ์ Apple เครื่องอื่น (iPad หรือ Mac)
เลือกอุปกรณ์ที่หายจากรายชื่อ
ระบบจะแสดงตำแหน่งปัจจุบันของเครื่อง
สามารถสั่ง “ส่งเสียง” หรือเปิด “โหมดสูญหาย (Lost Mode)” เพื่อแจ้งให้ผู้พบเห็นสามารถติดต่อคุณกลับได้
การค้นหาไอโฟนหายผ่านวิธีนี้เหมาะกับกรณีที่เครื่องยังเปิดอยู่ และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

วิธี ค้นหาไอโฟนหาย ผ่านอุปกรณ์อื่น
หากคุณไม่มีอุปกรณ์ Apple อยู่ใกล้ตัว สามารถใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนเครื่องอื่นเข้าไปที่ iCloud.com
ล็อกอินด้วย Apple ID
คลิก “Find iPhone”
เลือกอุปกรณ์ที่หาย
ดูตำแหน่งล่าสุด หรือสั่งให้แสดงเสียง / เปิดโหมดสูญหาย
เป็นอีกหนึ่งวิธีตามหาโทรศัพท์หาย iPhone ที่สะดวกและใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา

ไอโฟนหาย แล้วปิดเครื่อง อย่าพึ่งท้อ! วิธีจัดการและตามหาเครื่อง
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเมื่อไอโฟนหายแล้วเครื่องปิดจะไม่สามารถตามหาได้อีก แต่ความจริงแล้ว Apple ได้พัฒนาระบบให้สามารถตามหาไอโฟนหายปิดเครื่องได้ในหลายกรณี โดยเฉพาะใน iPhone รุ่นใหม่ ๆ และ iOS เวอร์ชันล่าสุด
1. เปิดใช้งาน Find My iPhone และ Send Last Location
เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าด้วยการเปิดใช้งานระบบติดตามเครื่องของ Apple ไปที่ Settings > Apple ID > Find My > Find My iPhone แล้วเปิดทั้ง Find My iPhone และ Send Last Location ไว้ทันที
เพราะเมื่อเครื่องใกล้หมดแบตหรือถูกปิด ระบบจะส่งพิกัดล่าสุดมาให้คุณดูได้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหาไอโฟนหายได้ง่ายขึ้น
2. ดูตำแหน่งล่าสุดก่อนเครื่องปิด
ถ้าเครื่องของคุณถูกปิดไปแล้ว แต่เปิดใช้งาน “ส่งตำแหน่งสุดท้าย” ไว้ก่อนหน้านี้ ระบบจะแสดงพิกัดล่าสุดบนแผนที่ เพื่อให้คุณรู้ว่าตำแหน่งสุดท้ายของเครื่องอยู่ตรงไหน ช่วยให้ตามรอยไอโฟนหายได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
3. iPhone 11 ขึ้นไป ค้นหาตำแหน่งได้แม้เครื่องปิด
ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ iPhone 11 ขึ้นไป เพราะ Apple เพิ่มฟีเจอร์พิเศษที่ใช้ชิปพลังงานต่ำช่วยส่งสัญญาณระบุตำแหน่งได้ แม้เครื่องจะถูกปิดอยู่ก็ตาม ทำให้การตามหาไอโฟนหายปิดเครื่องไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
4. iOS 15 ขึ้นไป มี Find My Network ช่วยตามหาแม้เครื่องปิด
สำหรับผู้ใช้ iOS 15 ขึ้นไป Apple เปิดตัวระบบ Find My Network ที่ฉลาดกว่าเดิม โดยใช้เครือข่ายอุปกรณ์ Apple รอบข้างช่วยส่งพิกัดเครื่องที่หายกลับไปยังบัญชีของคุณแบบปลอดภัย แม้เครื่องจะออฟไลน์หรือปิดเครื่องก็ยังตามหาได้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหาไอโฟนหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าการค้นหาไอโฟนหายจะง่ายขึ้นมาก หากคุณเตรียมเปิดใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ล่วงหน้า และรู้วิธีเข้าถึง Find My ผ่านทั้งแอปและเว็บไซต์ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไอโฟนหายขึ้นจริง ๆ ดังนั้น อย่ารอจนเครื่องหายแล้วค่อยตั้งค่า เพราะเพียงไม่กี่นาทีในการเปิดใช้งาน ก็อาจเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้คุณได้เครื่องคืนได้เร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่อยากไอโฟนหาย ต้องมีตัวช่วยกันหล่นหายที่คนรัก iPhone ต้องมี
สำหรับคนที่ใช้ iPhone และกังวลเรื่องโทรศัพท์หล่นหาย การมีตัวช่วยเสริมความปลอดภัยนอกจากฟีเจอร์ Find My iPhone ของ Apple ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เช่น สายคล้องโทรศัพท์ RHINOSHIELD ที่โดดเด่นทั้งด้านวัสดุและการปกป้อง หนึ่งในรุ่นยอดนิยมคือ สายคล้อง Ultra 2-in-1 ใช้งานได้ทั้งแบบคล้องคอและคล้องข้อมือ ปรับความยาวได้ เหมาะกับสายแอคทีฟหรือคนที่ใช้งานมือถือระหว่างเดินทาง
สายคล้องโทรศัพท์ RHINOSHIELD ดีไหม? บอกได้เลยว่าไม่ใช่แค่สวย แต่ยังแข็งแรงและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เมื่อใช้ร่วมกับเคส AirTag ยิ่งเพิ่มความมั่นใจ เพราะแม้โทรศัพท์จะปิด เครื่อง AirTag ก็ยังสามารถส่งสัญญาณผ่านเครือข่าย Find My ได้อย่างต่อเนื่อง เพิ่มโอกาสในการค้นหาได้มากขึ้น สำหรับใครที่มองหาอุปกรณ์เสริมคุณภาพจาก RHINOSHIELD ยังมีอีกหลายไอเทมที่ทั้งดีไซน์โดดเด่น ทนทาน และตอบโจทย์การใช้งานในทุกวันได้อย่างลงตัว
สายคล้องโทรศัพท์ ช่วยให้ไม่ต้องกลัวหล่นหายอีกต่อไป
ถ้าคุณไม่อยากเสี่ยงตามหาไอโฟนหายปิดเครื่อง หรือมานั่งกังวลว่าจะใช้วิธีตามหาโทรศัพท์หาย iPhone ยังไงให้ได้เครื่องคืน สายคล้องโทรศัพท์คือคำตอบ เพราะช่วยให้มือถืออยู่ติดตัวตลอดเวลา ลดความเสี่ยงหล่นหายอย่างได้ผล
สายคล้อง Ultra 2-in-1
สายคล้อง Ultra 2-in-1 คือผู้ช่วยอัจฉริยะที่พร้อมไปกับคุณทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือลุยธรรมชาติ ด้วยการใช้งานได้ถึง 3 โหมดในสายเส้นเดียว ทั้งโหมดสายสะพายที่ช่วยปลดปล่อยมือให้คล่องตัว โหมดสายคล้องข้อมือที่กะทัดรัดเหมาะกับการใช้งานช่วงสั้น ๆ และยังสามารถใช้สองโหมดพร้อมกันได้ เพิ่มความหลากหลายและตอบโจทย์ทุกสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยดีไซน์สายกว้างที่ช่วยกระจายน้ำหนัก ลดแรงกดบนไหล่ ทำให้ใช้งานได้อย่างสบายไม่เมื่อยล้า พร้อมวัสดุ 70D Ripstop เคลือบ PU ที่ทนทานต่อการฉีกขาดและเสียดสี ปรับความยาวสายได้อย่างอิสระ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่กิจวัตรประจำวันจนถึงการผจญภัยกลางแจ้ง สายคล้อง Ultra 2-in-1 จึงเป็นเพื่อนคู่ใจที่ไว้วางใจได้ในทุกการเดินทางของคุณ

สายคล้องอเนกประสงค์
สายคล้องอเนกประสงค์กว้างพิเศษ 25 มม. ออกแบบมาเพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างสบายตลอดทั้งวัน ลดแรงกดบนไหล่และเพิ่มความคล่องตัวในทุกกิจกรรมกลางแจ้ง ให้คุณเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระพร้อมพกพาอุปกรณ์สำคัญไว้ข้างกายตลอดเวลา โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความอึดอัดหรือปวดไหล่
ด้วยตะขอแม่เหล็ก FIDLOCK ที่ล็อคแน่นและใช้งานง่าย สามารถเกี่ยวติดและปลดล็อคได้รวดเร็วด้วยมือเดียว ให้คุณพร้อมลุยทุกสถานการณ์อย่างคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีห่วงห้อยของเพิ่มเติมสำหรับพกพาไอเท็มเสริมอย่าง AirPods กุญแจ หรือที่ใส่บัตร ช่วยให้คุณพกอุปกรณ์จำเป็นในระยะมือเอื้อมโดยไม่ต้องพะรุงพะรัง เหมาะกับคนที่ชอบความมินิมอลและความสะดวกสบายในทุกวัน

สายคล้อง Crossbody
สายคล้อง Crossbody ของ RHINOSHIELD โดดเด่นด้วยดีไซน์สายถักที่ทันสมัย มีให้เลือกถึง 8 สี ให้คุณมิกซ์แอนด์แมทช์กับเคสโทรศัพท์หลากลายพิมพ์นับพันแบบ เพื่อแสดงออกถึงสไตล์และตัวตนที่เป็นคุณอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะสะพายไว้บนไหล่ คล้องแขน หรือถือในมือ ก็พร้อมเคียงข้างคุณในทุกโมเมนต์ พร้อมห่วงห้อยของเพิ่มเติมสำหรับพกไอเทมเสริมอย่าง AirPods, AirTag, กุญแจ หรือที่ห้อยบัตร ช่วยให้หยิบใช้งานได้สะดวกทุกครั้งที่ต้องการ อีกทั้งยังปรับความยาวสายให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างลงตัว
สายคล้อง Crossbody Hypoallergenic ผลิตจากวัสดุเนื้อนุ่ม อ่อนโยนต่อผิวบอบบางและไม่ก่อให้เกิดการแพ้ มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำและต้านทานแบคทีเรีย ช่วยปกป้องคุณจากอันตรายที่มองไม่เห็นในชีวิตประจำวัน แม้จะนุ่มแต่ก็แข็งแกร่ง ทนทานต่อแรงดึง ให้คุณมั่นใจในการพกพาอุปกรณ์เสริมอย่างปลอดภัยและไร้กังวลตลอดทั้งวัน

สายคล้องข้อมือ
สายคล้องข้อมือ RHINOSHIELD มาพร้อมความโดดเด่นและปรับแต่งสไตล์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยสายถักคล้องข้อมือ 4 สีให้คุณเลือกแมทช์กับเคสโทรศัพท์ที่มีดีไซน์มากกว่า 3,000 แบบ เลือกจับคู่แบบไม่ซ้ำใคร เพิ่มความพิเศษให้กับโทรศัพท์ของคุณได้อย่างลงตัว ด้วยขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ทำให้พกพาสะดวก สามารถเก็บใส่กระเป๋าเสื้อผ้าได้ง่าย และยังเป็นแฟชั่นไอเทมที่ใช้งานได้หลากหลาย จะเหน็บไว้บนเข็มขัด คล้องกระเป๋า หรือใช้เป็นสายรัดกุญแจ ก็เพิ่มสไตล์พร้อมฟังก์ชันในเส้นเดียว
สายคล้องข้อมือ Hypoallergenic ออกแบบด้วยวัสดุนุ่มใส่สบาย เสมือนเป็นผิวหนังอีกชั้นหนึ่ง แม้ใส่ตลอดวันก็ไม่ระคายเคือง และยังมีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ ต้านแบคทีเรีย ทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับทุกกิจกรรมไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือกลางแจ้ง แม้เนื้อนุ่มแต่ทนทานแข็งแกร่งผ่านการทดสอบวัสดุระดับสูง ให้คุณมั่นใจได้ว่าการพกพาอุปกรณ์สำคัญด้วยสายคล้องนี้จะปลอดภัยและพร้อมลุยทุกสถานการณ์

เคส AirTag ปกป้อง AirTag ให้ปลอดภัย
นอกจากสายคล้องโทรศัพท์แล้ว หากคุณต้องการเพิ่มความมั่นใจเรื่องการติดตามสิ่งของหรือมือถือ การใช้ AirTag ร่วมกับสายคล้องคุณภาพจาก RHINOSHIELD ก็ช่วยให้การค้นหาไอโฟนหายเป็นเรื่องง่ายขึ้น

ปกป้อง AirTag ให้ปลอดภัยจากทุกการกระแทก
เคสกันกระแทก AirTag ใหม่จาก RHINOSHIELD ได้รับการทดสอบ Drop test ที่ระดับความสูง 3.5 เมตร เพื่อรับประกันความทนทานสูงสุด ด้วยการออกแบบวัสดุชิ้นเดียวที่กระชับแน่นกับ AirTag ทำให้ไม่หลุดออกง่าย จับถนัดมือ น้ำหนักเบา และปกป้อง AirTag จากแรงกระแทกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เคสยังผ่านการทดสอบการตกกระแทกถึง 500 ครั้งโดยไม่หลุด ทำให้มั่นใจได้ในความแข็งแกร่งและความปลอดภัยของอุปกรณ์
ShockSpread ECO นวัตกรรมวัสดุรักษ์โลก ปกป้องอย่างยั่งยืน
เคส AirTag ออกแบบด้วยเทคโนโลยี ShockSpread ECO ใหม่ล่าสุด ที่ให้การปกป้องเหนือระดับและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยยังคงจุดเด่นด้านการกันกระแทกที่ RHINOSHIELD ขึ้นชื่อ วัสดุ TPE รุ่นใหม่นี้มีคุณสมบัติแข็งแรง กระชับ ทนทานต่อความสกปรก และใช้งานได้นาน เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องประสิทธิภาพและความยั่งยืน
มาถึงตรงนี้ สรุปได้ว่าการป้องกันไม่ให้ไอโฟนหาย ย่อมดีกว่าต้องมานั่งค้นหาไอโฟนหาย หรือหาทางแก้ทีหลังว่าไอโฟนหายตามยังไง โดยเฉพาะกรณีต้องตามหาไอโฟนหายปิดเครื่อง ซึ่งแม้จะมีวิธีตามหาโทรศัพท์หาย iPhone ผ่านระบบ Find My ของ Apple ก็ไม่การันตีว่าจะได้เครื่องคืน การใช้สายคล้องโทรศัพท์หรือเคส AirTag ของแบรนด์ RHINOSHIELD จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงตั้งแต่แรก และหากสงสัยว่า RHINOSHIELD ซื้อที่ไหน สามารถสั่งซื้อได้โดยตรงที่เว็บไซต์ rhinoshield.co.th เพื่อให้มั่นใจว่าได้ของแท้ คุณภาพสูง ปกป้องโทรศัพท์คุณได้จริงในทุกสถานการณ์
เริ่มปกป้องโทรศัพท์ของคุณตั้งแต่วันนี้ ด้วยสายคล้องและเคส AirTag จาก RHINOSHIELD